“ปารีส แซงต์ แชร์กแมง”ชนะ”แมนเชสเตอร์ ซิตี้” 2-0

       ทางด้านตัวผู้เล่น เจ้าบ้านมีสามประสานในฝัน”MNM” “คิเลียน เอ็มปัปเป้”,”เนยมาร์”และผู้มาใหม่”ลิโอเนล เมสซี่”ลงสนามร่วมกันตั้งแต่นาทีแรก ส่วนทีมเรือใบสีฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงแดนหน้าพอสมควร ด้วยการส่ง”ราฮีม สเตอริ่ง”,”ริยาด มาเรซ”ลงมาล่าประตูร่วมกับ”แจ๊ค กรีลิช” และในแดนกลางได้จอมทัพ”เควิน เดอ บรอยด์”ช่วยทีมตั้งแต่ต้นเกม

       เริ่มเกมในครึ่งแรก ทีม”PSG”เปิดเกมบุกใส่ผู้มาเยือนทันที และเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่าจนสามารถยิงประตูขึ้นนำไปก่อนโดย”อิดริสซ่า เกย์”กองกลางทีมชาติเซเนกัล”ในนาทีที่ 8 แต่หลังจากนั้นเกมก็ตกเป็นของทีมเยือนอย่างสิ้นเชิง ด้วยการเปิดเกมรุกใส่เจ้าบ้านทุกรูปแบบ แต่ก็ทำได้แค่เพียงจังหวะหวาดเสียวบอลชนคานไปหนึ่งครั้ง ที่เหลือถ้าไม่ยิงทิ้งยิงขว้างไปเอง ก็ไม่ผ่านมือของผู้รักษาประตู”จิอันลุยจิ ดอนนารุมม่า”มือกาวทีมชาติอิตาลี ที่วันนี้โชว์ฟอร์มได้สุดยอดทั้งการยืนตำแหน่ง การเซฟและปฏิกิริยา จบครึ่งแรกเป็น”PSG”ที่ออกนำทีมเรือใบสีฟ้าอยู่ 1-0

       ครึ่งเวลาหลัง ผู้มาเยือนยังคงเดินหน้าเปิดบุกเข้าใส่เจ้าบ้าน แต่ก็ได้แค่เฉียดไปเฉียดมาเหมือนเดิม และในจังหวะโต้กลับของ”PSG”พวกดขาก็มาได้ประตูที่ 2 โดยเป็น”ลิโอเนล เมสซี่”ที่ได้บอลจากการสนาม ก่อนทส่งให้”คิเลียน เอ็มปัปเป้”ที่ดีดลูกหลังแปะคินให้”เมสซี่”วิ่งเข้ามาตะบันด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดที่หน้าหน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลหนีมือของ”เอเดอร์สัน”นายทวารทีมเยือนเข้าประตูไปอย่างสวยงาม จากนั้นไม่มีฝ่ายไหนทำอะไรกันได้อีก เมื่อหมดเวลาการแข่งขันจึงเป็นทางปารีส แซงต์ แชร์กแมงที่เอาชนะ”แมนเชสเตอร์ ซิตี้”ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0

          จากชัยชนะในนัดนี้ ส่งผลให้”PSG”ทะยานขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มเป็นที่เรียบร้อย  ด้วยการมี 3 คะแนน จากการลงเตะ 2 นัด ชนะ 1 เสมอ 1 โดยมีคะแนนเท่ากับทีมม้ามืดจากเบลเยียม”คลับ บรูก”แต่ทีมดังจากฝรั่งเศส เหนือกว่าในเรื่องของประตูได้เสีย  ทางด้านทีมเรือใบสีฟ้า หล่นไปอยู่อันดับ 3 มี 3 คะแนน ก็ถือว่าการพุ่งขึ้นมาของทีม”คลับ บรูก”ทำให้ที่ใครหลายคนเคยเก็งกันว่าในกลุ่มนี้สองทีมเต็งจากฝรั่งเศสกับอังกฤษจะผ่านเข้ารอบไปได้อย่างง่าย ๆ สบาย ๆ มันก็อาจไม่ง่ายเหมือนที่เคยคิดเสียแล้ว