โดยในแดนกลางของเจ้าถิ่นนัดนี้”เป๊ป กวาร์ดิโอล่า”ส่งจอมทัพเบอร์ 1 ของทีม”เควิน เดอบรอย”ลงสนามประสานงานร่วมกับ”ฟิล โฟลเด้น”,และเด็กใหม่”โรมิโอ ลาเวีย”แข้งวัย 17 ตั้งแต่นาทีแรก แผงหน้าจัดเต็มทั้ง”เฟร์ราน ตอร์เรส”,”ริยาด มาห์เรซ”,และ”ราฮีม สเตอริ่ง”

          เกมส์ในครึ่งเวลาแรกนั้น เปิดฉากขึ้นมา”วีคอมบ์”ทำซ๊อคแฟนบอลเจ้าถิ่นด้วยการบุกมายิงนำไปก่อนในนาทีที่ 22 แต่หลังจากนั้น”เรือใบสีฟ้า”เอาคืนรวดเดียวสามลูก ไล่จาก”เควิน เดอบรอยน์”นาทีที่ 29,”ริยาด มาห์เรซ”จัดการลูกที่สองนาทีที่ 43 และช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรกก็เป็น”ฟิล โฟลเด้น”ที่มาซัดให้เจ้าบ้านนำห่าง 3-1 ก่อนที่จะหมดเวลาครึ่งแรกไป

        ในช่วงครึ่งเวลาหลังนั้น ทุกอย่างยังอยู่ในกำมือของเจ้าบ้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้และจัดการไล่ยิงทีมเยือนไปได้อีก 3 ลูก โดยลูกที่ 4 ถึงคิวของกองหน้าชาวสเปน”เฟร์ราน ตอร์เรส”ในนาทีที่ 71 ,”ริยาด มาห์เรซ”ซัดลูกที่ 2 ของตัวเองในนัดนี้และเป็นลูกที่ 5 ของทีม ในนาทีที่ 83 และปิดท้ายลูกที่ 6 จากดาวรุ่งดวงใหม่ ตัวสำรองที่พึ่งลงสนามมาได้ไม่นาน “โคล พาลเมอร์”ลากบอลเกือบครึ่งสนามเข้าไปยิงอย่างสวยงามในนาทีที่ 88 ให้ทีม”เรือใบสีฟ้า”ปิดเกมส์เอาชนะผู้มาเยือน”วีคอมบ์”ไปได้อย่างขาดลอย 6-1 โดยตำแหน่ง”แมน ออฟ เดอะแมทช์”ในนัดนี้นั้นตกเป็นของ”ฟิล โฟลเด้น”ที่จ่ายให้เพื่อนทำประตูไป 2 ดอก และสังหารเองอีก 1 ส่วนดาวรุ่งที่ได้รับการชื่นชม เป็นพิเศษจากสื่อหลายแขนงได้แก่”โจซัว วิลสัน-เอสแบรนด์”ในตำแหน่งแบ๊คซ้าย กับ”โรมิโอ ลาเวีย”ที่โดดเด่นอย่างมากตรงแผงกลาง

          ก็คงต้องติดตามดูกันต่อไปว่าหนทางไล่ล่าแชมป์ใบนี้ของเหล่าพลพรรคเรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้และ “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า”ในฤดูกาลนี้ จะไปได้ไกลถึงไหน กับนโยบายทีมผสมเช่นนี้ แต่หลาย ๆ ฝ่ายก็เชื่อกันว่าถ้าถึงเวลาต้องโคจรไปเจอกับทีมใหญ่ด้วยกัน ผู้จัดการสมองเพชรคนนี้ก็คงไม่แคล้วต้องส่งชุดใหญ่ลงสนามไปลุยอย่างแน่นอน แฟน ๆ ทีมเรือใบไม่ต้องเป็นห่วง